18 พ.ย. 2551
วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Tuesday 18 November 2008
แพทย์คีโมเข้ามาประมาณหกโมงสี่สิบห้า ท่านถามน้องว่าทานยาไปหรือยัง น้องตอบท่านว่าทานไปแล้ว แพทย์คีโมไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากพูดว่า “ผมว่าคุณต้องทานยาอย่างต่อเนื่อง” และแพทย์คีโมก็ออกไป ซึ่งใกล้เวลาเจ็ดโมงเช้าเป็นเวลาทานยาของน้อง เมื่อวานทานตอนสายก็จริง แต่พวกเราคุยกันไว้ให้กลับมาทานยาเวลาเดิมกับที่เคยทานเป็นยาคีโมน่าจะดีกว่า จะได้ทานยาเป็นเวลาที่แน่นอนเหมือนเดิม
ช่วงก่อนเที่ยงของวันแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติเข้ามาตรวจเยี่ยมเหมือนปกติ น้องจึงบอกแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าเหมือนว่าน้องจะเหนื่อยเพิ่มมากขึ้นอีกนิดหน่อย หลังจากที่แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติฟังเสียงปอดจากหูฟังแพทย์เองแล้ว จึงหันมาบอกน้องว่าน้ำเพิ่มขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่ถ้าไม่เหนื่อยมากก็อย่าเพิ่งเจาะเลย แต่ถ้าเหนื่อยจนทนไม่ไหวแล้วค่อยเจาะ
น้องนั่งคิดอยู่พักใหญ่ น้องไม่อยากอยู่โรงพยาบาลบ่อยๆ และน้องก็ไม่อยากที่จะออกไปจากโรงพยาบาลและกลับเข้ามาใหม่ น้องจึงให้เราช่วยไปบอกแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าขอเจาะและจะได้ออกจากโรงพยาบาลไปเลยดีกว่า สักครู่พยาบาลจึงพาบุรุษพยาบาลมารับน้องเพื่อลงไปห้องอัลตร้าซาวนด์ เมื่อก่อนเข้าห้องแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติบอกว่าขอดูปริมาณน้ำที่ปอดก่อนอีกครั้ง ถ้ามีน้ำในปริมาณที่ควรเจาะ แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจะเจาะให้
น้องเข้าไปที่ห้องอัลตร้าซาวนด์สักครู่เดียว แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติออกมาจากห้องอัลตร้าซาวนด์และบอกว่าครั้งนี้น้องเจาะเอาน้ำออกประมาณ 800 ซีซี ซึ่งน้ำที่ออกมาเป็นเหมือนลักษณะเดียวกับครั้งที่แล้วที่เจาะออกมา เราจึงรีบเข้าไปที่ห้องอัลตร้าซาวนด์ดูน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครั้งนี้น้องดูไม่ได้เหนื่อยมากจากการเจาะ พยาบาลจึงพาน้องกลับขึ้นห้องพักฟื้น
หลังจากที่น้องมาถึงห้องพักฟื้นแล้ว น้องหลับไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากที่น้องตื่นน้องจึงเล่าเรื่องให้ฟังว่าการเจาะเป็นอย่างไรบ้าง น้องบอกว่าครั้งนี้เจาะที่ด้านข้าง ซึ่งครั้งนี้ไม่เจ็บตรงจุดไหนเลย และครั้งนี้ก็ไม่เหนื่อยอีกแล้ว ดูน้องสดชื่นมากๆ
พอช่วงเย็นน้องทานข้าวเย็นได้น้อยลง และน้องเริ่มบ่นว่าในปากมีแผล ซึ่งน่าจะเป็นผลข้างเคียงของยาคีโมตัวใหม่แบบทานที่เพิ่งเริ่มทาน ไม่นานนัก ญาติๆ เพื่อนๆ และคนในครอบครัวมาเยี่ยมตามปกติ น้องยังคุยกับทุกคนได้แบบปกติ
แสดงความคิดเห็น