28 พ.ย. 2551


วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Friday 28 November 2008

เช้านี้เรารีบไปโรงพยาบาลแต่เช้า ไปถึงเห็นน้องกำลังทานข้าวเช้าอยู่ เราจึงป้อนน้อง ซึ่งน้องทานโจ๊กได้เกือบหมดชามและน้ำส้มคั้นแก้วใหญ่อีกหนึ่งแก้ว พยาบาลที่ห้อง ICU ของน้องในวันนี้ดีมาก ทั้งใส่ใจและให้ความสนใจน้อง เมื่อน้องเห็นเราไปถึงก็รีบบอกข่าวดีกับเราว่า แพทย์ทางหัวใจจะให้น้องย้ายขึ้นห้องพักฟื้นธรรมดาแล้ว พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีก เราจึงขอให้พยาบาลช่วยขอห้องพักดีๆ ให้น้อง หลังจากนั้นน้องเล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าแพทย์คีโมเข้ามาเยี่ยม บ่นใหญ่เลยว่าไปไหนมา บ่นอยู่พักใหญ่ และสั่งให้น้องทานยาคีโมตัวเดิมต่อ น้องไม่อยากพูดมาก น้องก็เลยรับฟังไปทั้งหมด และแพทย์คีโมให้ฉีดยา Dexa เกี่ยวกับอาการลดบวมของน้อง

เรากับน้องได้คุยกันว่าจากนี้ไปเราสองคนจะเริ่มต้นใหม่ ไม่ต้องคิดมากกับเรื่องการรักษา ถ้าเป็นไปได้เราจะยืนไปทางเลือกเหมือนเดิม เพราะว่ายังไงๆ น้องไม่อยากที่จะทานยาคีโมแล้ว ทุกคนในครอบครัวจะไม่บังคับให้น้องทานยาอีก โดยที่วันนี้เรานั่งอ่านหนังสือให้น้องฟัง น้องสีหน้าสดใสขึ้นมากๆ และน้องยังเล่าฝันให้เราฟังอีกว่า เมื่อคืนน้องสาวฝันแปลกมากๆ น้องสาวฝันว่าเห็นเรายืนอยู่ข้างๆ ประตู และเมื่อน้องสาวเปิดประตูออกไป น้องสาวก็ลอยขึ้นไป เหมือนถูกดูดขึ้นไป น้องสาวรู้สึกสนุก ก็เลยลอยไปลอยมาอยู่พักใหญ่ จนน้องสาวเริ่มคิดว่าจะลอยไปไหนต่อ น้องสาวก็ได้ยินเสียงน้องชายที่มักจะสอนวิธีนั่งสมาธิให้น้องสาวออกมาว่า “จิตอยู่ที่ท้อง” น้องเลยกลับลงมาและตื่นขึ้นมา หลังจากที่น้องเล่าให้เราฟัง เราก็ว่าเป็นฝันที่แปลกมากๆ

วันนี้ทุกคนยอมรับกันหมด ว่าน้องสาวดูดีขึ้นมากๆ จนไม่น่าเชื่อว่าเมื่อวานน้องอาการไม่ดีถึงขนาดทำให้คิดว่าอาจจะไม่รอดแล้ว มาวันนี้ น้องคุยเล่นหัวกับทุกคนได้เหมือนปกติ เพื่อนๆ น้องต่างก็มาเยี่ยมเหมือนปกติ รวมทั้งญาติๆ และตอนเที่ยงเราก็ป้อนอาหารให้น้อง ซึ่งน้องก็ทานได้มากเหมือนเคย เรียกว่าไม่มีอาการปากเป็นแผลจนทานไม่ได้อีกแล้ว และพอช่วงบ่ายๆ พยาบาลที่ห้อง ICU ของน้องมาบอกว่าจะเตรียมตัวน้องย้ายกลับขึ้นไปที่ห้องพักฟื้นปกติแล้ว

เมื่อน้องย้ายขึ้นมาถึงห้องพักฟื้น น้องก็ยังสดชื่นและดูมีความสุขดีที่ไม่ต้องอยู่ห้อง ICU อีกแล้ว เพราะว่าน้องไม่ค่อยชอบโดดเดี่ยวอยู่ในห้อง ICU คนเดียว อีกทั้งยังจำกัดจำนวนคนเยี่ยม ทำให้น้องรู้สึกเหงา ตอนเย็นน้องยังคงทานข้าวได้เหมือนปกติทุกๆ อย่าง แพทย์ทางหัวใจมาเยี่ยมน้อง น้องจึงถามแพทย์ว่าเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองได้หรือไม่ แพทย์ทางหัวใจถามน้องว่าลุกไหวหรือไม่ น้องตอบไปว่า น้องลุกไหว แพทย์ทางหัวใจจึงบอกน้องว่า ถ้ายังไงให้เอาแบบรถมาใช้ที่ข้างๆ เตียงจะดีกว่า แต่น้องบอกว่าน้องน่าจะลุกไหว แพทย์ทางหัวใจเลยต้องรับว่าได้ และแพทย์ทางหัวใจเข้าใจในเรื่องอาหารของน้องที่เป็นทางเลือก ยังช่วยแนะนำว่า อย่าให้น้องทานน้ำที่ไม่มีโปรตีน เพราะน้ำพวกนั้นจะซึมเข้าไปที่ปอด อาจจะทำให้มีน้ำท่วมที่ปอดของน้องอีก แพทย์ทางหัวใจพยายามแนะนำน้ำประเภทต่างๆ ที่ไม่ได้ขัดกับทางเลือกให้น้องได้ลองดื่ม เราจึงถามแพทย์ทางหัวใจต่อว่า น้องขาและเท้าบวม ถ้าจะออกกำลังกายขาโดยการยกขึ้นยกลงบ้างได้หรือไม่ แพทย์ทางหัวใจจึงบอกว่าได้แต่จะต้องทำอยู่ในเตียงเท่านั้น

ส่วนแพทย์ทางปอดมาเยี่ยมโดยไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่บอกว่า “ถ้าหัวใจดีขึ้น ก็ให้ย้ายกลับไปหาแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติที่อีกโรงพยาบาลละกัน” แพทย์ทางปอดพูดบ่อยๆ จนพวกเราในบรรดาญาติๆ เริ่มงงกับจุดประสงค์ในการพูดเช่นนี้ของแพทย์ทางปอด จนเรายังปรึกษากันว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติมาเจาะปอดให้น้องที่โรงพยาบาลแห่งนี้

น้องยังพูดเรื่องลายมือของน้องให้เราฟังว่า ที่เส้นชีวิตที่มือของน้องขาดอยู่ช่วงหนึ่ง และขาดแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ถ้าเส้นนี้ต่อกันได้ น้องก็จะมีอายุยืนแน่ๆ ดังนั้นน้องหันมาปลอบเราว่าไม่ต้องห่วงนะ น้องเลือกที่จะอยู่ เพราะน้องยังมีอะไรที่อยากทำอีกมากมาย น้องอยากเผยแพร่เรื่องราวการป่วยของน้องเพื่อให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ และน้องอยากจะอุทิศตัวเองเพื่อคนที่ป่วยเป็นโรคนี้จริงๆ อยากจะช่วยคนเหล่านั้นให้ได้ น้องอยากจะทำเรื่องราวการป่วยทั้งหมดออกมาให้เป็นข้อมูลกับทุกๆ คน

ตอนเย็นออกจะคึกครื้นมากหน่อย เพราะทั้งญาติๆ คนในครอบครัวมาเยี่ยมกันคับคั่ง อีกทั้งเพื่อนน้องที่มาเยี่ยมกับแบบครบแก๊งค์ น้องดูมีความสุขนั่งพูดคุยกับเพื่อนๆ อย่างสดใส จริงๆ แล้ววันนี้ สาเหตุหนึ่งที่ญาติๆมากันมากมาย ก็เพราะ คุณพ่อก็พักอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน เพียงแต่ท่านอยู่คนละห้อง คนละชั้น (โดยที่ท่านรู้ว่าน้องพักอยู่ที่เดียวกัน แต่น้องไม่ทราบว่าคุณพ่ออยู่ในโรงพยาบาล เมื่อน้องถาม พวกเราก็จะบอกน้องว่า พ่อท่านไม่ค่อยสบาย ท่านนอนพักอยู่ที่บ้าน เลยไม่ได้แวะมาเยี่ยม)

น้องเล่าเรื่องต่างๆ ที่ประสบมาจากอีกโรงพยาบาลแบบขำขันให้เพื่อนๆ ฟังเหมือนปกติ จนถึงเวลาทุกๆ คนก็ลากลับกัน น้องจึงประกอบกิจวัตรทุกเย็นเองเหมือนปกติ ล้างหน้า แปรงฟันด้วยตัวเองทุกอย่างและจึงเข้านอน วันนี้น้องกลับมาดูมีความสุขอีกครั้ง เพราะพวกเราต่างก็บอกน้องกันว่า เท่ากับว่ารอดมาได้จากโรงพยาบาลเอกชนย่านพระรามสองแล้วก็เหมือนเกิดใหม่ จากนี้ไปก็เพียงเข้มงวดกับทางเลือกให้มากขึ้น ไม่ต้องทรมานจากการคีโมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

Filtered HTML

  • To post pieces of code, surround them with <code>...</code> tags. For PHP code, you can use <?php ... ?>, which will also colour it based on syntax.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • You may quote other posts using [quote] tags.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <blockquote> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Comment Input

  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd> <p> <img> <center> <font> <u> <br/>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Lines and paragraphs break automatically.