16 พ.ย. 2551
วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
Sunday 16 November 2008
เช้านี้น้องก็ตื่นขึ้นมานั่งสวดมนต์แต่เช้า ประมาณสิบโมงเกือบสิบเอ็ดโมง คุณแม่ก็โทรมาจากบ้านที่อยู่ประจำว่า แพทย์คีโมโทรมาบอกว่าน้องต้องรีบเข้าไปพบแพทย์คีโมด่วน ซึ่งแพทย์บอกให้เข้าไปให้ทันสิบเอ็ดโมงกว่า ณ เวลานั้นก็เกือบจะสิบเอ็ดโมงอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าแพทย์คีโมคิดว่าที่พักอาศัยของเราอยู่ใกล้ๆ หรืออย่างไร โดยเฉพาะวันนี้ที่พวกเราย้ายออกไปอยู่นอกเมือง
น้องรู้สึกกดดันเรื่องเวลาเล็กๆ เพราะน้องไม่ชอบไปที่นัดหมายไม่ตรงเวลา ก่อนออกจากบ้านน้องเริ่มมีปัสสาวะเป็นเลือดเล็กๆ แต่พวกเราก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะพวกเราต้องรีบไปพบแพทย์คีโมให้ทันให้ได้ ระหว่างทางแพทย์คีโมให้พยาบาลโทรมาเร่งที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งที่บ้านก็แจ้งแพทย์คีโมไปว่าน้องได้ออกเดินทางไปโรงพยาบาลได้สักพักแล้ว อีกไม่นานก็คงจะถึงที่โรงพยาบาลและขอให้แพทย์คีโมช่วยรอสักครู่ และที่บ้านรีบโทรมาบอกเราให้รีบขับรถไปเร็วๆ หน่อย เพราะว่าแจ้งแพทย์คีโมว่าน้องอยู่ระหว่างเดินทางแล้ว
เมื่อไปถึงประมาณสิบเอ็ดโมงยี่สิบแปดนาที พวกเราเดินไปถึงแผนกเคมีบำบัดทั้งๆ ที่น้องเหนื่อยหอบ และหายใจแทบไม่ทัน เชื่อหรือไม่ว่าพยาบาลเดินออกมาแจ้งว่าแพทย์คีโมกลับไปแล้ว พยาบาลแจ้งต่อว่าแพทย์คีโมให้พวกเราไปพบแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งแทน ขณะนั้นเราโมโหกับแพทย์คีโมท่านนี้มากๆ แพทย์คีโมเป็นคนสร้างความกดดันให้กับคนไข้โดยเร่งให้รีบมาพบ และพวกเรารีบมาโดยที่แจ้งไปแล้วว่ามาพบแน่ๆ และใกล้จะถึงแล้ว แต่แพทย์คีโมมีความรับผิดชอบต่ำขนาดไม่รอคนไข้ และยังปัดหน้าที่ความรับผิดชอบตัวเองออกไปให้แพทย์ท่านอื่น อาจจะเป็นเพราะจากประสบการณ์ทำงานของเราที่ไม่ว่าอย่างไร เราจะต้องรอลูกค้าของเราเสมอ และยิ่งถ้ารู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งนั้นไม่ควรจะละเลยหน้าที่ไปเด็ดขาด
หลังจากที่น้องได้ยินที่พยาบาลแจ้ง น้องถึงกับล้มนั่งลงไปที่เก้าอี้และไม่พูดอะไรออกมา เพราะน้องเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดีอยู่แล้ว เพียงครู่เดียวน้องบอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งขณะนั้นเราหันกลับมาถามพยาบาลว่าแพทย์คีโมออกไปกี่โมง พยาบาลบอกว่าแพทย์คีโมออกไปสักครู่แล้ว เราจึงถามต่อว่ามีแจ้งแพทย์คีโมหรือไม่ที่ทางบ้านแจ้งว่ากำลังจะเดินทางมาถึงแล้ว พยาบาลได้แต่ตอบว่าแจ้งแพทย์คีโมไปให้แล้ว พยาบาลยังหันมาพูดต่อว่าแพทย์คีโมทำการสั่งยาคีโมแบบทานให้อีกชุดหนึ่ง เนื่องจากว่ายาตัวนี้ไม่มีจำหน่ายที่โรงพยาบาลนี้ ดังนั้นเราจะต้องไปติดต่อซื้อที่โรงพยาบาลเอกชนอีกที่ ที่แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติประจำอยู่ พยาบาลรีบไปถ่ายสำเนาใบสั่งยาให้และบอกให้นำไปที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งแทน
น้องสาวเดินออกมาจากห้องน้ำและยืนยันว่าน้องปัสสาวะออกมาเป็นเลือดอีกแล้ว พวกเราต่างก็ใจเสีย แต่ต่างก็ไม่อยากคิดแบบกระต่ายตื่นตูมไปก่อน พวกเราจึงไปพบแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติต่อที่โรงพยาบาลเอกชนย่านพญาไท
เมื่อไปถึงเราบอกแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าแพทย์คีโมสั่งยาตัวใหม่ให้ แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติบอกว่าท่านพอทราบแล้ว และแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจึงบอกว่ายาคีโมตัวนี้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่มีจำหน่ายเช่นกัน แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติขอเวลาเช็คแล้วจะแจ้งอีกที แต่แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติไม่ได้รับปากว่าจะสั่งยาตัวนี้ให้ น้องสาวจึงบอกแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าน้องปัสสาวะออกมาเป็นเลือด แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจึงถามว่าออกมาลักษณะไหน ซึ่งน้องก็อธิบายว่าเป็นแค่ก้อนเลือดเล็กๆ เพียงก้อนเดียวออกมา แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติบอกว่าน้องอาจจะเป็นแค่กระเพาะปัสสาวะอักเสบธรรมดา แต่เพราะว่าน้องดูเหนื่อยมากๆ จากการที่ถูกแพทย์คีโมกดดันเรื่องเวลา แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจึงบอกว่าจะให้น้องไปอัลตร้าซาวนด์ตรวจดูให้แน่นอนอีกครั้ง และแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติอยากให้น้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจเสียก่อน
น้องรออยู่ที่หน้าห้องเพื่อรอเราไปดำเนินเรื่องเซ็นยอมรับสภาพหนี้และจองห้องพักฟื้น หลังจากที่ดำเนินเรื่องเรียบร้อยแล้ว เราจึงรีบไปหาน้อง ซึ่งพยาบาลถามน้องว่าปวดปัสสาวะหรือยัง เมื่อน้องบอกว่ายังไม่ปวด เราจึงขอให้น้องขึ้นไปพักที่ห้องพักก่อน ถ้าปวดปัสสาวะแล้วจะรีบแจ้งพยาบาลที่วอร์ดให้พากลับลงมา เนื่องจากการอัลตร้าซาวนด์จะต้องรอจนปวดปัสสาวะถึงจะทำได้ พวกเราทราบดีถึงข้อนี้เพราะว่าน้องเคยทำอัลตร้าซาวนด์มาแล้ว บางครั้งก็ต้องรอนาน
หลังจากนั้นพยาบาลจึงเดินไปส่งเรื่องของน้องขึ้นห้องพักฟื้นไป พอขึ้นไปสักครู่น้องจึงให้แจ้งพยาบาลว่าน้องเริ่มปวดปัสสาวะ พยาบาลมาที่ห้องถามว่าปวดปัสสาวะแล้วหรือ ซึ่งน้องก็บอกว่าเริ่มปวดจึงรีบบอกพยาบาลไว้ก่อน พวกเราพากันลงมาที่ห้องอัลตร้าซาวนด์ รอที่หน้าห้องสักครู่เดียว เมื่อแพทย์อัลตร้าซาวนด์ออกมาจากห้อง เราจึงรีบเดินเข้าไปดูน้องที่ห้องอัลตร้าซาวนด์ ถามน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องก็หันมายิ้มแบบใจเย็น
ที่ห้องพักน้องหันมาบอกเราว่า น้องเริ่มสงสัยว่ามะเร็งลามไปที่ตับแล้ว เราจึงถามน้องว่าทำไมน้องถึงคิดเช่นนั้น น้องตอบเราว่าน้องคิดว่าน่าจะใช่ แต่ถ้าถามถึงขนาดนั้นน้องไม่รู้ และอีกเหตุผลน้องเห็นการที่แพทย์ทำอัลตร้าซาวนด์ย้ำอีกครั้ง เราบอกน้องว่าน้องอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้ามีอะไรผิดปกติ แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติคงมาบอกพวกเราเอง เนื่องจากน้องศึกษาและไปทางธรรมมากขึ้นกว่าเดิม น้องจึงปล่อยวางหันมาคุยเรื่องตลกกับเราต่อ แต่ในใจของเราเริ่มหวั่นๆ แล้ว เพราะถ้าให้พูดกันจากใจจริง ที่น้องบอกเราจากการสังเกตตัวเขาเองที่ผ่านมา ไม่เคยมีอะไรผิดพลาดเลย มีแต่ว่าแพทย์คีโมรู้ทีหลังทุกครั้ง ทั้งๆ ที่แพทย์คีโมน่าจะคาดเดาสถานการณ์ได้ก่อน เมื่อน้องบอกอาการที่เกิดขึ้นไป แต่กลายเป็นว่า ท่านไม่เคยใส่ใจ และอาการต่างๆจะมารับรู้และได้รับการยืนยัน เมื่อน้องเข้าพบกับแพทย์ท่านอื่น และแจ้งอาการให้แพทย์ท่านอื่นทราบ
หลังจากที่กลับขึ้นมาที่ห้องไม่นานนัก แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติมาตรวจเยี่ยมที่ห้องพักและบอกน้องว่าตกลงแล้วน้องเป็นแค่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะว่าไม่มีอะไรผิดปกติที่กระเพาะปัสสาวะเลย ดังนั้นท่านจะสั่งยาแก้อักเสบไว้ให้ทาน ซึ่งฟังดูแล้วก็ไม่น่าเป็นห่วง น้องจึงถามแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติต่อทันทีว่าแล้วตับน้องปกติหรือไม่ แพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจึงถามน้องกลับว่าทำไมถึงถามท่านเกี่ยวกับตับ น้องจึงตอบว่า แค่สงสัยเฉยๆ ท่านจึงบอกน้องว่าไม่น่าเป็นห่วง และไม่น่าจะมีอะไร
อีกสักพักคนในครอบครัวก็มากันพร้อมหน้า คุณแม่เลยอาสาเฝ้าน้องให้ เพราะว่าคุณแม่กลัวว่าเราจะหิวข้าวมาก เพราะตอนนั้นคุณแม่นำอาหารมาให้น้องมาจากบ้าน เราจึงลงไปทานอาหารกับคุณพ่อและน้องที่ข้างล่าง แต่เพราะความระแวงของเราจึงขอให้คุณน้าโทรไปถามแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติว่าที่ตับน้องเป็นอะไรหรือไม่ เพราะปกติแล้วแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติจะไม่ผลีผลามบอกอะไรต่อหน้าน้องเด็ดขาด หลังจากที่คุณน้าสนทนากับแพทย์ทางปอดที่เป็นญาติแล้ว คุณน้าจึงหันมาบอกว่าน้องมีก้อนเล็กๆ ขนาดประมาณหนึ่งเซนติเมตรที่ตับแล้ว สิ่งที่น้องบอกเรานั้นไม่เคยผิดเลยจริงๆ น้องเป็นคนรู้จักตัวเองและเข้าใจระบบในร่างกายของตัวเองดีมากๆ
เมื่อกลับขึ้นไปทุกคนก็พูดคุยปกติ ไม่นานนักทั้งญาติและเพื่อนๆ ของน้องก็ผลัดกันเข้ามาเยี่ยมกันถ้วนหน้า กำลังใจเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ กับคนป่วยโรคนี้ เพราะแรงใจที่ทุกคนส่งให้ทำให้น้องต่อสู้อุปสรรคต่างๆ ด้วยรอยยิ้มเสมอ
แสดงความคิดเห็น