การบำบัดที่สัมพันธ์กับระบบประสาทอัตโนมัติ

ดร.เคลลี่จึงได้ผลสรุปออกมาจากงานวิจัยต่างๆ รวมทั้งจากการศึกษาคนไข้มากกว่าพันคนของดร.เคลลี่เองได้ว่า ถ้าสามารถจัดระบบประสาทอัตโนมัติให้สมดุลได้ด้วยการใช้สูตรการโภชนาของเขา ก้อนมะเร็งเนื้อร้ายสามารถฝ่อและยุบลงและหายไปได้ ถ้าปิดระบบประสาทซิมพาเทธิคและกระตุ้นระบบพาราซิมพาเทธิคในคนไข้ที่เป็นเนื้องอกมะเร็งชนิดแข็งจนถึงจุดที่เหมาะสม ก้อนเนื้อร้ายก็จะหายขาดเพียงไม่กี่วัน และในทางตรงกันข้าม ถ้าคนไข้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง การใช้โภชนาการสูตรเนื้อแดงจะทำให้ร่างกายสร้างความเป็นกรด เป็นการกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทธิค ปิดระบบพาราซิมพาเทธิค โรคมะเร็งสามารถหายไปได้ ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติทั้งสิ้น

นอกจากนี้ดร.เคลลี่กลุ่มทานผักผลไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งแบบก้อนแข็ง (Hard Tumor) เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งสมอง ส่วนพวกกลุ่มทานเนื้อมักเป็นโรคมะเร็งของเม็ดเลือด เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว และพวกกลุ่มสมดุลจะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ทั้งสองชนิดคือชนิดก้อนแข็งและชนิดเม็ดเลือด

ดร.เคลลี่สรุปว่าคนที่เป็นมะเร็งก้อนนั้นจะมีระบบประสาทซิมพาเทธิคที่แรงมาก ผนังเซลล์และผนังเซลล์ของก้อนเนื้อร้ายก็จะตึงมาก เอนไซม์ตับอ่อนของคนไข้ไม่สามารถเข้าไปถึงเซลล์ก้อนเนื้อร้าย แต่เมื่อผู้ป่วยเปลี่ยนมาทานอาหารแบบเกอร์สัน โดยมีน้ำเอนไซม์ และเพิ่มยาเม็ดเอนไซม์ตับอ่อน ร่างกายของผู้ป่วยจะเปลี่ยนเป็นสภาพด่าง ระบบประสาทซิมพาเทธิคก็จะอ่อนแรงลง แคลเซียมจะเริ่มไหลออกมาจากผนังเซลล์ทำให้ผนังเซลล์มีรูพรุน เอนไซม์สามารถเข้าถึงเนื้อร้ายได้ง่ายขึ้น

ดังนั้นดร.เคลลี่จึงนำเรื่องระบบประสาทอัตโนมัติ (ระบบประสาทซิมพาเทธิคและระบบประสาทพาราซิมพาเธทิค) และระดับความสมดุลของกรดด่างมาใช้ในการรักษา โดยที่มีคนเคยตั้งคำถามว่า ทำไมผู้ป่วยสองคนที่เป็นมะเร็งก้อนชนิดเดียวกัน ในบริเวณจุดเดียวกัน แต่ร่างกายของผู้ป่วยคนหนึ่งตอบสนองได้ดี แต่ร่างกายอีกคนจึงไม่มีการตอบสนองเลย

ดร.เคลลี่แจงรายละเอียดไว้ว่า ผู้ป่วยคนที่หนึ่งนั้นมีระบบประสาทซิมพาเทธิคที่แรง เมื่อได้รับยาเคมีบำบัด ผนังเซลล์ของเนื้อร้ายจะตึงมาก ไม่มีอะไรผ่านเข้าเซลล์ได้ เอนไซม์ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน หรือสารภูมิคุ้มกันไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้ป่วยจึงเสียชีวิตเพราะเนื้อร้ายเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง

ส่วนผู้ป่วยอีกคนที่ทำให้สภาพร่างกายเปลี่ยนมาเป็นด่าง ผนังเซลล์จะอ่อนตัวลง สารเคมีบำบัด สารของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เอนไซมตับอ่อนสามารถซึมเข้าผ่านเซลล์เนื้องอกและทำลายได้อย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยคนนี้ถึงมีอาการที่ดีขึ้น

พวกกลุ่มที่ทานเนื้อหรือกลุ่มพาราซิมพาเทธิคจะตรงกันข้ามกับพวกซิมพาเทธิค เพราะกลุ่มที่ทานเนื้อนั้นร่างกายของพวกเขาจะมีสภาพร่างกายที่เป็นด่างเกินไป เซลล์จะมีรูพรุนทำให้สารต่างๆ ซึมเข้าออกได้ง่าย ภาวะเหล่านี้กระตุ้นให้เซลล์แบ่งตัว เซลล์มะเร็งที่ไหลเวียนไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายอย่างรวดเร็วและแบ่งตัวไปพร้อมกัน เพราะฉะนั้นยาเคมีบำบัดทุกชนิดจะไม่สามารถไล่ตามความเร็วได้ทัน ผู้ป่วยจึงมักจะพ่ายแพ้ต่อมะเร็ง แต่ถ้าใช้สูตรอาหารเนื้อแดงจะทำให้ร่างกายเป็นกรด การทำงานระบบประสาทซิมพาเทธิคจะถูกกระตุ้นให้ทำงาน ส่วนระบบประสาทพาราซิมพาเทธิคจะถูกปิด ผนังเซลล์จะตึงแข็งขึ้น การแบ่งตัวทำให้ช้าตัวลง ดังนั้นจะทำให้ยาเคมีบำบัด สารภูมิคุ้มกันและเอนไซม์ตับอ่อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

สนใจสูตรอาหารเนื้อแดง มีข้อมูลเพิ่มหรือเปล่าคะ สามีเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวอยู่ต้องการบำบัด้วยอาหาร / แต่ที่ทำตอนนี้ รู้สึกว่าจะงดเนื้อสัตว์ ถ้ากลับทางกันอย่างนี้ เด่วต่อไปจะยิ่งแย่ / ขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วยนะค่

แสดงความคิดเห็น

Filtered HTML

  • To post pieces of code, surround them with <code>...</code> tags. For PHP code, you can use <?php ... ?>, which will also colour it based on syntax.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • You may quote other posts using [quote] tags.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <blockquote> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Comment Input

  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Allowed HTML tags: <a> <em> <strong> <cite> <code> <ul> <ol> <li> <dl> <dt> <dd> <p> <img> <center> <font> <u> <br/>
  • Lines and paragraphs break automatically.

Plain text

  • No HTML tags allowed.
  • Web page addresses and e-mail addresses turn into links automatically.
  • Lines and paragraphs break automatically.