5 มิ.ย. 2551
วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2551
Thursday 5 June 2008
น้องแทบจะลากร่างกายอันเหนื่อยล้ามากๆ ของน้องออกจากบ้านไปคลีนิกเพื่อไปฉายแสงก่อน เพราะว่าเรามีนัดฉายแสงกันตอนเช้า และหลังจากนั้นน้องจะต้องไปพบแพทย์ทางคีโม
เมื่อฉายแสงเหมือนปกติ ที่ฉายโดยอุปกรณ์กรวยและสาดไปที่ด้านหลังเสร็จ พวกเราก็รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลย่านพระรามหก พอถึงที่โรงพยาบาล น้องก็บอกเราว่าน้องเดินไม่ไหวแล้ว เพราะเหนื่อยมากและแน่นหน้าอกจริงๆ ขาก็ไม่ค่อยมีแรง เราเลยให้รถมาเข็นน้องขึ้นไปพบแพทย์คีโม เมื่อถึงที่ห้องคอยตรวจทางด้านเคมีบำบัด พยาบาลก็ให้น้องเจาะเลือดและให้ไปเอกซเรย์ตามที่ครบกำหนดการให้ยาคีโมสองครั้ง หลังจากที่เอกซเรย์เสร็จ น้องก็มานั่งรอที่หน้าห้องของแพทย์คีโมเพื่อรอพบแพทย์คีโม แต่แล้วน้องก็อาเจียนอีกครั้งอย่างหนัก ภายหลังน้องไม่ไหวจริงๆ เราจึงไปขอพยาบาลว่า อาการน้องแบบนี้ให้น้ำเกลือได้หรือไม่ พยาบาลจึงพาน้องไปนอนให้น้ำเกลือที่ห้องสังเกตุการณ์ พวกเราก็ไปอยู่ที่นั่นกับน้อง และจากนั้นไปพักใหญ่ๆ จู่ๆ แพทย์คีโมของน้องก็เข้ามา บอกให้พวกเราออกไปคุยกัน และวันนี้ต้องบอกว่าเป็นวันแรกหลังจากการรักษากับแพทย์คีโมคนนี้มาสองเดือนที่เห็นแพทย์คีโมของน้องเปิดฟิล์มเอกซเรย์ของน้องดู แพทย์คีโมอธิบายให้ฟังแค่ว่า น้องต้องพักที่โรงพยาบาลนี้ และไม่ได้อธิบายอะไรมาก ได้แต่เพียงหันไปสั่งพยาบาลว่า “ช่วยเช็คให้หน่อยว่าตอนนี้ที่โรงพยาบาลมีแพทย์ทางด้านหัวใจท่านไหนบ้าง” หลังจากที่พยาบาลโทรเช็คแล้วก็หันมาแจ้งชื่อแพทย์ทางด้านหัวใจ ซึ่งแพทย์คีโมก็ถามย้ำพยาบาลอีกว่ามีท่านอื่นหรือไม่ พยาบาลจึงยืนยันกับแพทย์คีโมว่าวันนี้มีอยู่ท่านเดียว แต่ตอนนี้แพทย์ทางด้านหัวใจออกตรวจอยู่ และเดี๋ยวแพทย์ทางด้านหัวใจจะตามขึ้นไปที่ห้องผู้ป่วยดูอาการ น้องจึงถูกย้ายจากห้องสังเกตการณ์ไปยังห้องพักคนไข้
รออยู่พักใหญ่ในห้องก็มีแพทย์ทางด้านหัวใจเข้ามาดูน้อง แพทย์ทางด้านหัวใจขอดูตามแขน ขา นิ้วมือของน้อง ท่านขอดูลักษณะของเล็บที่เป็นหลังเต่า และท่านยังขอดูเล็บของเราเพื่อเปรียบเทียบกันระหว่างพี่น้อง และแพทย์ทางด้านหัวใจก็ถามว่าน้องบวมน้ำแบบนี้มานานหรือยัง เราจึงบอกไปว่าบวมน้ำนั้นเคยแจ้งแพทย์คีโมไปนานแล้ว แต่พักนี้น้องดูบวมน้ำเอามากๆ น้องปวดบริเวณคอที่ต่อมน้ำเหลืองมาก น้องก็มีแจ้งแพทย์ทางด้านหัวใจไปอีกว่าปวดหลังมากด้วย และแพทย์ทางด้านหัวใจไม่รอช้า หันไปสั่งพยาบาลให้พาน้องลงไปเช็คเอคโค่ (Echo) ของหัวใจ แต่ก่อนอื่นต้องขอเช็คคิวว่าห้องว่างหรือเปล่า น่าจะต้องใช้เวลาซักหน่อยเพราะเรื่องคิว และแพทย์ทางด้านหัวใจก็รีบลงไปจัดการ
สักพักนึง พยาบาลก็มาตามน้อง บอกว่าจะพาไปห้องตรวจหัวใจได้แล้ว พวกเราจึงพากันลงไป แต่เมื่อไปถึงห้องที่พวกเราควรจะรอด้านนอก แต่เพราะว่าน้องอยากให้เราอยู่ด้วยข้างๆ เราจึงได้เข้าไปอยู่ใกล้ และเห็นแพทย์ทางด้านหัวใจเช็คอยู่พักใหญ่ ต้องขอชมพยาบาลที่ห้องนี้จริงๆ ว่าใส่ใจคนไข้มาก มีการช่วยกันปิดม่านและค่อนข้างเน้นความเป็นส่วนตัวของคนไข้ ไม่ทำให้คนไข้ผวา หลังจากที่แพทย์ทางด้านหัวใจได้ตรวจอยู่พักใหญ่ แพทย์ทางด้านหัวใจก็อธิบายให้พวกเราฟังอย่างละเอียดว่า น้องมีน้ำท่วมอยู่ที่เยื่อหุ้มหัวใจเยอะมาก ซึ่งฟังได้จากเสียงที่ดังมาก โดยที่แพทย์ทางด้านหัวใจอธิบายไปก็มีการเปิดเสียงให้พวกเราได้ฟังจริงๆ ทำให้เข้าใจในสิ่งที่แพทย์ทางด้านหัวใจกล่าวง่ายขึ้น จากนั้นแพทย์ทางด้านหัวใจบอกว่าน้องอาจจะต้องโดนเจาะเพื่อเอาน้ำออกมา ซึ่งการเจาะนี้ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเอาน้ำออกมาได้หมด เพราะว่าน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจน่าจะเยอะเอามากๆ จึงเป็นสาเหตุให้น้องหายใจไม่ได้ เพราะน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจไปเบียดหัวใจ จึงทำให้หัวใจไม่สามารถที่ทำงานได้อย่างปกติ พวกเราก็สอบถามแพทย์ทางด้านหัวใจว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่อาการที่มาจากการที่น้องฉายแสงสาด แพทย์ทางด้านหัวใจก็อธิบายให้ฟังว่า ไม่น่าจะเกี่ยว แพทย์ทางด้านหัวใจสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากตัวโรคที่ไปตกไว้อยู่ก่อนแล้ว และแพทย์ทางด้านหัวใจแนะนำให้ไปพักที่ห้องที่ใกล้กับพวกเครื่องมือด้านหัวใจ พวกเราจึงต้องย้ายออกจากห้องเดิม และย้ายไปที่ใกล้กับที่ๆ ใกล้กับพวกอุปกรณ์ทางด้านหัวใจ ณ คืนนั้น
คืนนั้นหลังจากการย้าย ก็มีแพทย์ที่เป็นเวรอยู่ที่วอร์ดนั้นเข้ามาดู ซึ่งคืนนี้น้องต้องเอนเตียงหรือพูดง่ายๆ ก็คือนั่งหลับ และจริงๆ แล้วคืนนั้นน้องไม่ได้นอนเลย กลายเป็นว่าน้องมาเกรงใจที่เราจะต้องย้ายมานั่งหลับอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ เตียง
ผลการตรวจเม็ดเลือดอย่างสมบูรณ์
(Complete Blood Count: CBC)
HCT/HB - 33.3/11.5
WBC - 15,900
Neutrophil - 74
Lymphocyte - 14
Monocyte - 5
Platelets - 397,000
แสดงความคิดเห็น